365WECARE

เครื่องตรวจวัดน้ำตาลในเลือด (Blood Glucose Monitor) 

        คือเครื่องตรวจวัดน้ำตาลในเลือดที่สามารถอ่านค่าน้ำตาลในเลือดได้แม่นยำ อีกทั้งยังไม่ต้องกังวลเรื่องการเจาะเลือดเพราะใช้เลือดน้อย สามารถอ่านค่าได้ไว และยังสามารถบันทึกผลการตรวจได้  ตัวเครื่องสามารถเปิดและตรวจสอบความพร้อมทันทีเมื่อสอดแผ่นตรวจน้ำตาลเข้าไปในเครื่อง มีปุ่มปลดทิ้งแผ่นตรวจน้ำตาลที่ใช้งานแล้ว ทำให้ไม่ต้องสัมผัสเลือด จึงให้ความปลอดภัยและสะดวกมากขึ้น เมื่อไม่มีการใช้งานเครื่องจะปิดเอง สะดวก ใช้งานง่าย และปลอดภัยแบบสุด ๆ  นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ให้ครบครันภายในเซ็ต ไม่ว่าจะเป็นปากกาเจาะเลือด แผ่นตรวจน้ำตาล เข็มเจาะ และกระเป๋าใส่อุปกรณ์เพื่อความสะดวกในการพกพา

 

ใครบ้างที่ควรใช้ เครื่องตรวจวัดน้ำตาลในเลือด

  1. ผู้ที่อายุเกิน 40 ปีขึ้นไป
  2. มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน
  3. เป็นผู้มีน้ำหนักเกิน หรือมีดัชนีมวลกายมากกว่า 25
  4. มีความดันโลหิต หรือมีน้ำตาลในเลือดสูง (เป็นโรคใดโรคหนึ่ง ความเสี่ยงต่ออีกโรคก็เพิ่มขึ้น) มีระดับไขมันในเลือดสูง
  5. สตรีที่มีประวัติเบาหวานขณะตั้งครรภ์หรือน้ำหนักบุตรแรกคลอดมากกว่า 4 กก.
  6. ไม่ออกกำลังกาย ดื่มสุรา และ/หรือสูบบุหรี่

จริงๆ แล้ว เครื่องตรวจวัดน้ำตาลในเลือด สามารถใช้ได้กับทุกคน ไม่จำเป็นจะต้องใช้เฉพาะกับผู้ที่มีความเสี่ยงเท่านั้น เพราะถึงแม้จะไม่มีความเสี่ยง แต่ก็ไม่ได้การันตีว่าจะไม่เป็นโรคเบาหวาน ดังนั้น เครื่องตรวจวัดน้ำตาลในเลือดจึงเป็นตัวเลือกสำคัญหนึ่ง ที่ควรมีติดบ้านไว้สักเครื่อง เพื่อป้องกันโรคร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่รู้ตัว

 

  •  

สังเกตได้อย่างไรว่าเสี่ยงเป็นเบาหวาน 

             ผู้ป่วยเบาหวานมากกว่าครึ่ง มักไม่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นป่วยเป็นเบาหวาน กว่าจะรู้ตัวอีกที อาการก็อาจจะเป็นหนักไปเสียแล้ว กลายเป็นโรคเบาหวานแบบไม่รู้ตัว ดังนั้น ต้องหมั่นสังเกตอาการตัวเอง ซึ่งสามารถสังเกตได้ ดังนี้

  • ► ปัสสาวะบ่อย และปริมาณมาก เพราะไต ได้ทำการกรองน้ำตาลส่วนเกินที่มากกว่าความจำเป็นของร่างกาย ให้ออกมาทางปัสสาวะ
  • ► หิวน้ำบ่อย ซึ่งเกิดมาจากร่างกายที่ขับปัสสาวะออกมามากกว่าปกติ ทำให้ร่างกายขาดน้ำ จึงรู้สึกหิวน้ำนั่นเอง
  • ► กินมากกว่าปกติ แต่น้ำหนักลดลง
  • ► ร่างกายเป็นแผลง่าย เมื่อเป็นแล้วหายช้ากว่าปกติ
  • ► ตาพร่ามัว เบลอ มองอะไรไม่ชัดเจน
  • ► เหนื่อยง่าย อ่อนเพลียง่าย หิวบ่อย
  • ► ชาตามปลายมือและปลายเท้า

         หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยอาการและหาทางรักษา วิธีป้องกันที่ดีที่สุด คือ ต้องหมั่นตรวจเช็คระดับน้ำตาลในเลือดด้วย เครื่องตรวจวัดน้ำตาลในเลือด อยู่เสมอ เพราะหากมีความผิดปกติ จะได้รักษาได้อย่างทันท่วงที โอกาสเป็นโรคเบาหวานก็จะยิ่งน้อยลง  

 

ข้อดีของการตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดenlightened

  • ใช้ตรวจสอบผลเลือดสำหรับผู้ที่มีอาการแสดงหรือมีปัจจัยเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวาน
  • ใช้ติดตามระดับน้ำตาลในเลือด สำหรับผู้ที่เป็นเบาหวานอยู่แล้ว หรือต้องการควบคุมน้ำตาลในเลือด
  • ใช้ประเมินผลการรักษาและประเมินความเสี่ยงของการเกิดโรคแทรกซ้อนจากเบาหวาน
  • ใช้ในการตรวจป้องกัน อันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทันทีเมื่อมีอาการระดับน้ำตาลในเลือดสูง หรือระดับน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไป ในผู้ป่วยเบาหวาน

 

นอกจากการใช้เครื่องตรวจวัดน้ำตาลในเลือดแล้วควรดูแลตนเองอย่างไรถึงจะดี

  • ออกกำลังกายเป็นประจำ

  • ดื่มน้ำเปล่าสะอาด พยายามจิบน้ำบ่อย ๆ ตลอดวัน

  • ทานอาหารในปริมาณน้อย โดยแบ่งเป็นมื้อย่อย ๆ 5 - 6 มื้อ แทนการทานอาหารมื้อใหญ่

  • หลีกเลี่ยงการทานของหวาน เพราะในของหวานมีส่วนประกอบของน้ำตาล มากกว่าอาหารชนิดอื่น ๆ 

  • มองโลกในแง่ดี ไม่เครียด

  • ตรวจวัดน้ำตาลอยู่เป็นประจำ เพื่อควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด

  • ควบคุมน้ำหนัก ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เพราะนอกจากจะเสี่ยงเป็นเบาหวานแล้ว โรคแทรกซ้อนอื่น ๆ จะตามมาด้วย เช่น โรคอ้วน โรคความดันโลหิต

  • ควบคุมแคลอรี่ โดยปริมาณแคลอรี่ในแต่ละวัน จะอยู่ที่ประมาณ 30 - 35 กิโลแคลอรี่/น้ำหนักตัวมาตรฐาน 1 กิโลกรัม

  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

  • ควรใช้ เครื่องตรวจวัดน้ำตาลในเลือด เวลาไหนและควรควบคุมตัวเลขให้อยู่ที่เท่าไหร่

  • ก่อนทานอาหาร ระดับน้ำตาลควรอยู่ที่ 90 - 130 มิลลิกรัม/เดซิลิตร

  • หลังทานอาหาร 2 ชั่วโมง ระดับน้ำตาลควรน้อยกว่า 180 มิลลิกรัม/เดซิลิตร

  • หากคุณรู้สึกใจสั่น หน้ามืด เหงื่อออก เป็นลม ปัสสาวะบ่อย อ่อนเพลีย จะต้องเจาะเลือดเพื่อประเมินระดับน้ำตาลในเลือด โดยที่ระดับน้ำตาลสะสม (HbA1c) ควรน้อยกว่า 7%

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

365wecare call365wecare Line365wecare Facebook365wecare Tiktok

ฝ่ายบริการลูกค้า

080-365-3696

ติดตามเราได้ที่

หน้าหลัก

shopping_cart
0

ตะกร้าสินค้า

แบรนด์

โปรโมชั่น