วาเลอเลียน (Valerian) เป็นไม้ดอกยืนต้น ดอกมีสีขาว สีชมพู หรือสีม่วง มักออกดอกในฤดูร้อน ลำต้นสามารถสูงได้ถึง 1.5 เมตร ดอกมีกลิ่นหอมพิเศษ และพบว่ามีการสกัดเอากลิ่นของวาเลอเลียนมาทำเป็นน้ำหอมตั้งแต่ศตวรรษที่ 16

   วาเลอเลียน (Valerian) มีต้นกำเนิดในยุโรปและเอเซีย ถูกนำมาใช้เป็นสมุนไพรตั้งแต่ยุคกรีซและโรมันโบราณ โดยสารสำคัญที่พบในรากวาเลอเฃเลียน คือ Gamma-aminobutyric acid หรือ GABA และสารกลุ่ม iridoids สารเหล่านี้ออกฤทธิ์คล้ายยานอนหลับในกลุ่ม benzodiazepines โดยไปเพิ่มสารสื่อประสาทส่วนกลางที่ทำให้นอนหลับ และยังมีฤทธิ์คลายวิตกกังวลอีกด้วย ดังนั้นการใช้สมุนไพรวาเลอเลียนจึงช่วยแก้ปัญหาอาการนอนไม่หลับ และเหมาะอย่างมากสำหรับอาการนอนไม่หลับที่มีสาเหตุจากความเครียด และวิตกกังวล

รากวาเลอเลียนช่วยอะไรบ้าง

 จากที่กล่าวไปในข้างต้น นอกจากรากวาเลอเลียนจะมีส่วนช่วยให้การนอนหลับดีขึ้น ในรากของวาเลอเลียนประกอบไปด้วยสารสำคัญหลายอย่างที่ช่วยในการลดความกังวล และมีสารประกอบที่เป็นกรดวาเลอเรนิก (Valerenic Acid) ที่มีส่วนในการช่วยกระตุ้นการสร้างสารกาบาในสมอง (GABA) และรากวาเลอเลียนยังมีส่วนช่วยในการยับยั้งการทำลายสารกาบาในสมอง จึงส่งผลให้รู้สึกสงบ ผ่อนคลาย ลดความวิตกกังวลลง

รากวาเลอเลียนทำให้นอนหลับดีขึ้นได้อย่างไร ✿ 

   ในรากวาเลอเลียน ยังมีสารสำคัญอีกชนิดหนึ่งที่เรียกว่า ลินาริน (Linarin) ซึ่งเป็นสารที่ออกฤทธิ์ต่อประสาทแต่ไม่ได้ร้ายแรง เป็นฤทธิ์ต่อประสาทอ่อนๆ จึงมีส่วนช่วยทำให้รู้สึกสงบ ผ่อนคลาย ทำให้สามารถนอนหลับได้ดีขึ้นรากวาเลอเลียนช่วยเพิ่มคุณภาพในการนอนหลับสำหรับคนที่นอนหลับยาก หรือนอนหลับไม่เต็มอิ่ม ไม่ก่อให้เกิดอาการง่วงซึมหลังจากตื่นนอน ส่งผลทำให้เพิ่มคุณภาพชีวิตประจำวันและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในปัจจุบัน จึงนิยมนำรากวาเลอเลียนมาเป็นส่วนประกอบในยาหรือผลิคภัณฑ์อาหารเสริมที่ช่วยเรื่องอาการนอนไม่หลับหรือนอนหลับยากกันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากมีความน่าเชื่อถือในเรื่องประสิทธิภาพ
 

•    วาเลอเลียน (Valerian) เป็นสมุนไพรที่มีต้นกำเนิดอยู่แถบยุโรป และเอเชียมานานกว่า 2,000 ปี ดอกวาเลอเลียน เป็นดอกเล็กสีขาวและม่วง เมื่อ 400 กว่าปีที่ผ่านมามนุษย์ได้เริ่มนำส่วนของรากวาเลอเลียน มาใช้เป็นสมุนไพรเพื่อรักษาอาการนอนไม่หลับและคลายความวิตกกังวลกันอย่างจริงจัง และในปัจจุบันได้รับการยอมรับให้ขึ้นทะเบียนเป็นยาสมุนไพรเพื่อช่วยการนอนหลับในประเทศเยอรมนี ประเทศเบลเยี่ยม ประเทศฝรั่งเศสประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ประเทศอเมริกา และประเทศอิตาลี
•     รากวาเลอเลียน (Valerian root) ได้ถูกนำมาใช้ในการรักษาอาการนอนไม่หลับอย่างแพร่หลายในประเทศแถบยุโรป โดยสมุนไพรชนิดนี้มีกลไกการออกฤทธิ์ที่คล้ายยานอนหลับโดยไปเพิ่มสารสื่อประสาทส่วนกลางที่ทำให้นอนหลับ และยังมีฤทธิ์คลายวิตกกังวลได้อีกด้วยนอกจากนี้มีผลงานวิจัยพบว่าเมื่อใช้สารสกัดจากรากวาเลอเลียน (Valerian root) วันละ 450 มิลลิกรัม กับผู้ที่นอนไม่หลับติดต่อกันอย่างน้อย 4 สัปดาห์ โดยให้รับประทานเป็นระยะ 14-28 วัน สามารถช่วยเพิ่มคุณภาพของการนอนหลับ โดยช่วยทำให้นอนหลับง่ายขึ้น หลับสนิท ไม่ตื่นกลางดึก และไม่มีอาการง่วงซึมหลังจากตื่นนอน
•     สารสกัดรากวาเลอเลียน (Valerian root) จึงช่วงลดปัญหาของผู้ที่นอนหลับยากหรือนอนหลับ ๆ ตื่น ๆ ซึ่งการนอนหลับอย่างเต็มอิ่มจะช่วยให้ตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกสดชื่น และสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังพบว่าสารสกัดจากรากวาเลอเลียน(Valerian root) มีผลข้างเคียงน้อยกว่ายานอนหลับทั่วๆ ไป และมีความปลอดภัยไม่ก่อให้เกิดการเสพติดอีกด้วย

   การนอนหลับจึงมีความสำคัญกับสุขภาพของเรา เนื่องจาก 1 ใน 3 ของชีวิตของเราในแต่ละวันเป็นเรื่องการพักผ่อนด้วยการนอนหลับ หรือ 8 ชั่วโมง จาก 24 ชั่วโมง ในแต่ละวัน การนอนจึงมีความหมายมากที่จะทำให้เรามีสุขภาพที่ดี สำหรับเคล็ดลับที่ช่วยทำให้การนอนหลับดีขึ้นไม่ว่าจะเป็น การทำสมาธิก่อนนอน การออกกำลังกาย ฟังเพลงเบาๆ อ่านหนังสือ อาบน้ำอุ่น ดื่มนม จิบน้ำอุ่น และเราควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้นอนหลับที่มีคุณภาพ และที่สำคัญต้องมีความปลอดภัย ไม่เสพติด

คำแนะนำในการรับประทาน 

✿ สำหรับภาวะนอนไม่หลับ

สารสกัดวาเลอเลียน 400-900 mg ก่อนเข้านอนนาน 6 สัปดาห์ หรือ

สารสกัดวาเลอเลียน 120 mg ร่วมกับสารสกัดสะระแหน่ 80 mg ก่อนเข้านอนนาน 30 วัน หรือ

สารสกัดวาเลอเลียน 374-500 mg ร่วมกับสารสกัดจากฮอปส์ 83.8-120 mg ก่อนเข้านอนนานสองสัปดาห์ ทานวาเลอเลียนก่อนเข้านอน 30 นาทีถึง 2 ชั่วโมง

✿ สำหรับอาการหมดประจำเดือน  

  นำรากวาเลอเลียนบด 225 mg สามครั้งต่อวันนาน 8 สัปดาห์ หรือสารสกัดจากรากวาเลอเลียน 530 mg สองครั้งต่อวันนาน 8 สัปดาห์

ข้อควรระวังในการใช้วาเลอเลียน ✿ 

   สารสำคัญ ลินาริน (Linarin) ที่ถึงแม้จะออกฤทธิ์อย่างอ่อนก็ตาม แต่ไม่ควรรับประทานร่วมกับยารักษาอาการซึมเศร้าต่างๆ เพราะจะยิ่งเสริมฤทธิ์กัน ทำให้มีอาการเคลิ้ม หรือง่วงนอนผิดปกติได้ รวมไปถึงหลีกเลี่ยงการใช้รากวาเลอเลียนหากมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และไม่ควรรับประทานรากวาเลอเลียนติดต่อกันนานเกินไป หากการนอนหลับดีขึ้นแล้ว ควรค่อยๆปรับลดยาลงและหยุดยา เพื่อสร้างความสมดุลให้ร่างกาย