แผ่นให้ความร้อน (Heating Pad) 

     แผ่นให้ความร้อน (Heating Pad) คือ แผ่นประคบร้อนไฟฟ้า มีหินแร่ธรรมชาติ (Bio Stone) อยู่ข้างใน ที่ให้ความความร้อนที่คงที่ และความร้อนชื้น  ทั้งนี้ความร้อนชื้นมีประสิทธิภาพมากกว่าความร้อนแห้งในการให้การซึมผ่านของเนื้อเยื่อที่อุณหภูมิเดียวกัน เมื่อความร้อนผ่านชั้นผิวหนังและไขมันไปถึงกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อบริเวณนั้นจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวมีความยืดหยุ่น ลดการหดเกร็ง และกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด การที่มีโลหิตหมุนเวียนในบริเวณนั้นมากขึ้นจะทำให้มีการนำออกซิเจนและสารอาหารมาเลี้ยงบริเวณเนื้อเยื้อมากขึ้น รวมทั้งทั้งช่วยชะล้างของเสียและสารพิษที่เกิดจากการบาดเจ็บ ทำให้อาการปวดลดลง

 

ข้อมูลผลิตภัณฑ์

● เป็นแผ่นความร้อนสามารถช่วยบรรเทาอาการปวด เนื่องจากความร้อนจะช่วยให้เส้นเลือดที่ถูกประคบขยายตัว จึงเพิ่มการไหลเวียนโลหิตเฉพาะที่ ช่วยบรรเทาอาการปวด มีให้เลือกทั้งขนาดมาตรฐานและขนาดใหญ่ สามารถปรับอุณหภูมิไปตำแหน่ง Low หรือ High

● ภายในประกอบด้วยฉนวนความร้อน และหินอร่ธรรมชาติ ( Bio Stone ) ซึ่งเป็นหินแร่ธรรมชาติมีคุณสมบัติดูดกลืน และกระจายรังสีอินฟราเรดหรือรังสีความร้อนไปยังสาร ประกอบไปด้วยหิน Quartz Porphyry ซึ่งเป็นหินบำบัดที่ใช้ในการบำบัดดั้งเดิมของชาวเกาหลี

● ห่อหุ้มด้วยผ้าฉนวนหุ้มซึ่งด้านหนึ่งหมาหว่าอีกด้านหนึ่ง ส่งผลให้แผ่นความร้อนด้านหนึ่งร้อนกว่าอีกด้านหนึ่ง ( สังเกตได้จากด้านที่ร้อนคือด้านที่มีป้ายข้อควรระวัง ) เป็นผลดีในเรื่องของการเก็บความร้อนได้ดีขึ้น และเนื่องจากปกติแล้วเมื่อนำแผ่นความร้อนด้วยไฟฟ้าเอ็กซ์เตอร์เทอร์โมแพด จะสัมผัสผิวหนัง ( ด้านที่ร้อน ) อีกด้านสัมผัสอากาศ ( ด้านหนึ่งจะร้อนน้อยกว่า )

 

คุณสมบัติของแผ่นให้ความร้อน (Heating Pad) 

 

• ✿ บรรเทาปวดทั่วๆไป เช่น โรคปวดหลังปวดคอเนื่องจากกระดูกต้นคออักเสบปวดกล้ามเนื้อปวดข้อมือบ่าสะบักแขนไหล่สิ้นท่าการใช้งานกล้ามเนื้อท่าเดิมๆมากเกินไปเช่นการนั่งทำคอมพิวเตอร์รวมทั้งบรรเทาอาการปวดประจำเดือนทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวและเลือดไหลเวียนสะดวก
• ✿ สร้างโปรตีนป้องกันกล้ามเนื้อตายลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ
• ✿ ช่วยให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย เช่น ปลายเท้าทำให้เลือดไหลเวียนสะดวกมากขึ้นสามารถใช้ห่มทับผ้าห่มโดยเปิดอุณหภูมิเพียงเพิ่มความอบอุ่นตัวแผ่นมีความหนักเพียงพอที่จะให้ความร้อนได้โดยไม่กดทับ
• ✿ ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวแผ่นประคบร้อน ซึ่งให้ความร้อนในระดับต่ำคืออุณหภูมิประมาณ 30 ถึง 70 องศาเซลเซียสโดยความร้อนจากแผ่นจะไปกระตุ้นปลายประสาทที่รับรู้ความรู้สึกร้อนเย็นให้ส่งสัญญาณออกมาเพื่อไปขัดขวางสัญญาณความเจ็บปวดอีกทอดหนึ่งไม่ให้ไปที่สมองจึงทำให้รู้สึกทุเลาหรือมีอาการเจ็บปวดลดลงซึ่งเป็นผลมาจากความร้อนจะกระตุ้นให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นเริ่มคลายตัว
• ✿ ทำให้เลือดไหลเวียนเมื่อมีความร้อนในระดับที่เหมาะสม จะทำให้เลือดบริเวณที่ถูกความร้อนนั้นขยายตัวและจะให้เลือดซึ่งมีน้ำเป็นองค์ประกอบที่สำคัญไหลมาไหลมามากขึ้นเพื่อระบายความร้อนออกไปและนำเรือที่เย็นกว่าผ่านเข้ามาซึ่งเป็นการป้องกันตนเองทำให้อวัยวะที่ได้รับบาดเจ็บได้รับออกซิเจนและสารอาหารมาซ่อมแซมมากขึ้นรวมทั้งเจือจางสารเคมีที่ทำให้เกิดการอักเสบอีกด้วยหลอดเลือดที่หดตัวก็จะคลายตัวออกความเจ็บปวดจึงทุเลา
• ✿ กระตุ้นให้เกิดการสร้างโปรตีนใหม่ เพื่อนำไปสร้างเป็นกล้ามเนื้อป้องกันกล้ามเนื้อลีบโดยปกติคนที่ต้องเข้าเฝือกหรือไม่ได้ทำอะไรโดยนอนนิ่งอยู่นานนานกล้ามเนื้อที่ไม่ได้ใช้งานนั้นจะฝ่อหรือรีบไปเองทำให้ดูแล้วแขนขาเล็กรีบลงเมื่อให้การบำบัดด้วยความร้อนจะทำให้โปรตีนชนิดหนึ่งเรียกว่าซึ่งอยู่บริเวณกล้ามเนื้อนั้นถูกกระตุ้นและเร่งให้สร้างมากขึ้นเพื่อนำไปสร้างเป็นกล้ามเนื้อใหม่
• ✿ ให้ความอบอุ่นถ้าร่างกายมีอุณหภูมิต่ำกว่าปกติ จะเกิดจะเกิดเนื่องจากสาเหตุใดก็ตามผิวจะมีลักษณะซีดเสี่ยวและเย็นหนาวสั่นหายใจตื้นตื้นและหัวใจเต้นเบามากการใช้แผ่นประคบร้อนจะช่วยแก้ปัญหาอาการตัวเย็นได้มากในภาวะที่อากาศหนาวเย็น

 

วิธีการใช้งานแผ่นให้ความร้อน  

• ✿ ตรวจสอบเบื้องต้นก่อนการใช้งานว่าแผ่นความร้อนเทอร์โมเพดไม่มีรอยยับ หรือรอยแตก สวิตซ์ควรอยู่ในต่ำแหน่ง Off
• ✿ สวมแผ่นความร้อนไว้ในถุงผ้าที่บรรจุมาพร้อมแผ่นทำความร้อนเทอร์โมเพด
• ✿ เสียบปลั๊กเข้ากับกระแสไฟบ้านหรือ กระแสไฟสลับ
• ✿ หมุนสวิตซ์ไปที่ Low ระบบจะเริ่มทำงาน ไฟจะแสดงสถานะเป็นสีแดง และสามารถปรับระดับความร้อนได้ตามต้องการ
• ✿ เมื่อจะเลิกใช้งานให้หมุนสวิตซ์ไปที่ตำแหน่ง Off แผ่นความร้อนหยุดทำงาน แล้วถอดปลั๊กออก
• ✿ แผ่นความร้อนสามารถปรับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ 30 – 70 องศาเซลเซียส
• ✿ ใช้ประคบนานครั้งละ 30 นาที และเว้นช่วงอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ก่อนการประคบใหม่ ไม่ควรใช้เกินวันละ 3 ครั้ง เมื่อประคบควรอยู่ในห้องที่อุณหภูมิปกติไม่หนาวเกินไป กระเป๋าน้ำร้อน

 

ข้อระวังและข้อห้ามใช้ 

1. ห้ามใช้ในผู้ที่สูญเสียการรับรู้ความรู้สึกทางผิวหนัง และบริเวณที่มีการอักเสบติดเชื้อ
2. ห้ามใช้ขณะนอนหลับ และกับเด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี
3. ห้ามใช้กับบริเวณต่าง ๆ ของรางกายในช่วงเวลาเดียว เพราะอาจทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตต่ำ ความร้อนสูง เหงื่อออกมากจนร่างกายเกิดสภาวะขาดน้ำได้