L-Glutamine (แอล กลูตามีน)

   แอล-กลูตามีนเป็นกรดอะมิโน ชนิดที่ไม่จำเป็น (Non-essential amino acid) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่มีขั้ว แต่ไม่มีประจุ ชอบน้ำ และยังเป็น เอมีน (amine) ของกรดกลูตามิน (glutamic acid) อีกด้วย โดย กลูตามีนมีโครงสร้างที่ประกอบด้วยหมู่คาร์บอกซิลิก (Carboxylic group, -COOH) หมู่อะมิโน(Amino group, NH2 ) อะตอมไฮโดรเจน และหมู่ R (Side chain) ต่ออยู่กับอะตอมของคาร์บอนที่ตำแหน่งแอลฟา(α-carbon)

   สำหรับประเภทของ แอล-กลูตามีน นั้นมีเพียงประเภทเดียวแต่สามารถแยกได้เป็น 2 รูปแบบ คือ แอล-กลูตามีนในรูปแบบที่มีอยู่ในแหล่งอาหารตามธรรมชาติ ส่วนอีกรูปแบบหนึ่งคือ รูปแบบที่ถูกสังเคราะห์และสกัดออกมาเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่วางขายกันอยู่ในปัจจุบัน

แหล่งที่พบและแหล่งที่มาของ L-Glutamine

   L-Glutamine แอล-กลูตามีน เป็นกรดอะมิโนไม่จำเป็นชนิดหนึ่งที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นเองได้ แต่เมื่ออายุมากขึ้นการสร้างแอล-กลูตามีนจะลดลง โดยแอล-กลูตามีนจะพบได้มากที่สุดในเลือด โดยมีความเข้มข้นในเลือดประมาณ 500/900 μmd/L นอกจากนี้ยังสามารถพบ แอล-กลูตามีนได้ในแหล่งอาหารตามธรรมชาติ เช่น เนื้อวัว เนื้อไก่ เนื้อหมู ปลา นม ไข่ กะหล่ำปลี เนย โยเกิร์ต ถั่ว ผักขม และผักชีฝรั่ง ฯลฯ นอกจากนี้ในปัจจุบันยังมีการสังเคราะห์และสกัด ให้เป็น L-glutamine ในรูปแบบผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เพื่อให้สะดวกในการบริโภคเพื่อให้ร่างกายได้รับ แอล-กลูตามีน อย่างเพียงพอ

ประโยชน์เมื่อร่างกายมีกลูตามีนอย่างเพียงพอ

 ☆ สมองฉับไวด้วยกลูตามีน

   กลูตามีนเป็นสารตั้งต้นในการผลิตสารสื่อประสาท (Neurotransmitter) คือ กลูตามเมท และกาบา (GABA; Gamma-Aminobutyric Acid) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในกระบวนการเรียนรู้และจดจำของสมอง ช่วยให้ฉลาดขึ้น (เพิ่มไอคิวได้ แม้แต่ในเด็กที่มีปัญหาทางสติปัญญา) รวมไปถึงสมดุลด้านอารมณ์

   กาบา เป็นกรดอะมิโนที่ไม่จำเป็น (non-essential amino acid) พบมากในสมองและตาของมนุษย์ ทำหน้าที่ยับยั้งการทำงานของเซลล์ประสาทอื่นๆ ควบคุมการเคลื่อนไหว เป็นสารที่ช่วยให้ผ่อนคลาย (relaxation) และลดความตึงเครียด จึงเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าเป็นสารธรรมชาติในสมองที่ช่วยให้สงบ (brain’s natural calming agent) และนอนหลับอย่างมีคุณภาพ

☆ กลูตามีนเสริมสร้างโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone)

   กลูตามีนกระตุ้นการหลั่งโกรทฮอร์โมน เพิ่มขึ้น 4 เท่า ช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองขณะหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย ลดอาการเครียด และทำให้นอนหลับได้ดีขึ้น

    โกรทฮอร์โมนจะถูกเก็บไว้ที่ต่อมใต้สมอง และถูกหลั่งออกมาขณะที่เรานอนหลับ ออกกำลังกาย และถูกจำกัดการรับประทานอาหาร

      โกรทฮอร์โมนดีต่อร่างกายคุณอย่างไรบ้าง

   ✿  ช่วยเผาผลาญไขมันและเปลี่ยนไขมันเป็นพลังงานและกล้ามเนื้อ

   ✿  เพิ่มความต้านทานต่อการเกิดโรคต่างๆ

   ✿  เร่งให้แผลหายเร็วขึ้น

   ✿  ช่วยการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ

   ✿  เพิ่มความแข็งแรงของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ส่งผลให้เส้นเอ็นที่ยึดกล้ามเนื้อและกระดูกแข็งแรงขึ้น

   ✿  เพิ่มการสังเคราะห์โปรตีนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างกล้ามเนื้อ

   ✿  ลดปริมาณยูเรียในปัสสาวะ

☆ กลูตามีนเพิ่มกลูตาไทโอน (Glutathione)

   กลูตาไทโอน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ถูกสร้างขึ้นในตับของเราจากกรดอะมิโนสามตัวคือ ซิสเตอีน กรดกลูตามิก และไกลซีน ทำหน้าที่ปกป้องเซลล์ทั่วร่างกาย รวมไปถึงเนื้อเยื่ออวัยวะต่างๆ และยังช่วยป้องกันมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งตับ กลูตาไทโอนทำงานคล้ายตัวเพิ่มพลังงานให้กับระบบถูมิคุ้มกัน ช่วยร่างกายขับโลหะหนักและยาต่างๆ และยังช่วยป้องกันผลร้ายจากแสงรังสี ผลเสียต่อสุขภาพจากการสูบบุหรี่และดื่มสุรา ทั้งยังช่วยลดการอักเสบในโรคข้ออักเสบ และภูมิแพ้อีกด้วย

    กลูตาไทโอนได้รับการขนานนามว่าเป็นกรดอะมิโนชะลอวัยยกกำลังสาม เพราะมันประกอบด้วยเปปไทด์สามสาย สังเคราะห์ขึ้นมาจากกรดอะมิโนสามชนิดคือ แอล-ซิสเตอีน กรดแอล-กลูตามิค และไกลซีน พบว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยจัดการกับอนุมูลอิสระซึ่งเร่งกระบวนการแก่ชรา ทั้งยังช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดริ้วรอย ชะลอวัย

•  ☆ กลูตามีนช่วยในการสมานแผล

    กลูตามีนช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น ผลวิจัยจากสถาบันเคียววะ ประเทศญี่ปุ่น พบว่าเมื่อรับประทานกลูตามีนคู่กับผลิตภัณฑ์อาร์จีนีน (Argenine) จะช่วยให้แผลสดรวมทั้งแผลกดทับหายเร็วขึ้น

•  ☆ กลูตามีนช่วยเสริมสร้างและป้องกันการสลายตัวของกล้ามเนื้อ

    กลูตามีนเป็นกรดอะมิโนที่เป็นโครงสร้างสำคัญของกล้ามเนื้อและยังช่วยลดปริมาณกรดแล็คติก (Lactic Acid) ที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนล้าระหว่างทำงานหรือออกกำลังกาย

•  ☆ กลูตามีนเสริมภูมิคุ้มกัน

    กลูตามีนเป็นเชื้อเพลิงให้กับเซลล์เม็ดเลือดขาว ช่วยให้เม็ดเลือดขาวทำงานได้ดีขึ้น เป็นผลให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น

•  ☆ กลูตามีนเพิ่มการดูดซึมสารอาหาร

    กลูตามีนจะช่วยซ่อมแซมเยื่อบุผนังลำไส้ ช่วยให้ลำไส้ดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น