365Lifecare Vita K2 Plus D3 30แคปซูล.+ Aquamin Calcium Plus D3 45แคปซูล.+ Collagen TypeII 30แคปซูล.

365ไลฟ์แคร์ ไวต้า เค2 พลัส ดี3 + อะความิน แคลเซียม พลัส ดี3 + คอลลาเจน ไทป์ทู

ชุด เสริมสร้างข้อกระดูก
1. 365Lifecare Vita K2 Plus D3 30แคปซูล. 365ไลฟ์แคร์ ไวต้า เค2 พลัส ดี3
2. 365Lifecare Aquamin Calcium Plus D3 45แคปซูล. 365ไลฟ์แคร์ อะความิน แคลเซียม พลัส ดี3
3. 365Lifecare Collagen TypeII Plus Black Sesame 30แคปซูล. 365ไลฟ์แคร์ คอลลาเจน ไทป์ทู พลัส งาดำ

1. 365 Lifecare Vita K2 Plus D3 30แคปซูล
365 ไลฟ์แคร์ ไวต้า เค2 พลัส ดี3
เสริมประสิทธิภาพให้แคลเซียม ช่วยให้การทำงานร่วมกันดียิ่งขึ้น

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไวต้า เคทู พลัส ดี3
Vitamin K2 (MK-7)
วิตามินเค 2 มีส่วนช่วยในการทำให้กระดูกแข็งแรง โดยนำแคลเซียมเข้าสู่กระดูกและฟัน ลดการสลายของมวลกระดูก, กระตุ้นให้สร้างโปรตีนที่จะจับกับแคลเซียม ทำให้เพิ่มการดูดซึมในลำไส้ได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ป้องกันหัวใจ เนื่องจากช่วยลดการเกิดหินปูน หรือ แคลเซียมเกาะที่หลอดเลือด ทำให้ระบบหมุนเวียนโลหิตดีขึ้น เป็นต้น

Vitamin D3 (วิตามิน ดี3)
วิตามินดี ช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมจากลำไส้ ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของกระดูก

วิตามินดี3 เป็นชนิดที่ผิวหนังสังเคราะห์ได้เองเมื่อสัมผัสกับรังสียูวีหรือแสงแดดในปริมาณที่เพียงพอ วิตามินดีที่สังเคราะห์ได้จากรังสียูวีหรือแสงแดดนั้นเป็นแหล่งของวิตามินดีที่มีประสิทธิภาพ แต่มีข้อจำกัดคือการได้รับรังสียูวีจากแสงแดดอย่างเพียงพอเป็นไปได้เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นอยู่ในระดับสูง

วิตามินดี3 ให้ประสิทธิภาพการเพิ่มระดับวิตามินดีในเลือดได้ดีกว่าวิตามินดี2มากกว่าถึง 56-87% นอกจากนี้วิตามินดี3ยังสามารถเก็บสะสมไว้ในเนื้อเยื่อไขมันได้ดีกว่าวิตามินดี2 มากกว่า3 เท่า*

Microencapsulation “นวัตกรรมไมโครเอนแคปซูลเลชั่น”
ปัญหาของ vitamin K2 ที่พบในปัจจุบัน
ผลิตภัณฑ์วิตามิน K2 ในรูป MK7 ในท้องตลาดปัจจุบัน พบว่ามีประสิทธิภาพไม่ตรงตามฉลากที่ระบุไว้ มีปริมาณวิตามิน K2 ที่ไม่ตรงตามข้างฉลาก เนื่องจากวิตามิน K2 ที่ได้จากธรรมชาติ มักมีความไม่คงทน โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในรวมกับสาร alkaline เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม หรือ วิตามินรวม เป็นต้น

Microencapsulation K2 เทคโนโลยีใหม่จากประเทศเยอรมันนี
เป็นการพัฒนาวิตามิน K2 MK7 รูปแบบใหม่ โดยใช้กระบวนการ ไมโครเอนแคปซูเลชัน (microencapsulation) ที่เคลือบวิตามิน K2 MK7 2 ชั้น (Unique Two-layered Coating, Two water-dispersible Coatings) ทำให้ได้ วิตามิน K2 MK7 ในรูปที่คงตัวมากขึ้น มีค่า half-life ยาวนานขึ้น ทำให้สามารถนำไปผลิตรวมกับแคลเซียม และ แมกนีเซียม แล้วยังได้ปริมาณที่ตรงตามที่ระบุไว้ในฉลาก

การศึกษาเปรียบความคงตัวระหว่าง natural fermented K2 MK-7 และ K2VITAL® DELTA พบว่า natural fermented K2 MK-7 มีปริมาณลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เมื่ออยู่รวมกับ แคลเซียมคาร์บอเนต แมกนีเซียมออกไซด์ และ L-arginine ส่วน K2VITAL® DELTA มีความคงตัวตลอดระยะเวลา 12 เดือน และยังมีความคงตัวทั้งในอุณหภูมิ 25°C และ 40°C

วิตามินเค 2 เมนาควิโนน (Menaquinone) สร้างขึ้นโดยแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ (Microbiota) และได้จากอาหารบางชนิด เช่น การหมักถั่วเหลืองโดยใช้แบคทีเรีย Bacillus subtilis ได้แก่ นัตโตะ หรือ ถั่วเน่า นมและผลิตภัณฑ์จากนม ได้แก่ โยเกิร์ต ชีส เนยแข็ง นอกจากนี้ ยังพบในตับ ไข่แดง เป็นต้น

ข้อแตกต่างของวิตามินเค แต่ละชนิด
✿    วิตามินเค 1 ฟิลโลควิโนน (Phylloquinone) ทำหน้าที่กระตุ้นโปรตีนที่ใช้ในการแข็งตัวของเลือด (Vitamin K dependent proteins : VKD) ทำให้เกิดการแข็งตัวของเลือดตามกลไกปกติ
✿    วิตามินเค 2 เมนาควิโนน (Menaquinone) มีหน้าที่สร้างความแข็งแรงให้กระดูก ลดการเกาะของแคลเซียมที่หลอดเลือดแดง (Calcification)
✿    วิตามินเค 3 เมนาไดโอน (Menadione) เป็นชนิดที่สังเคราะห์ขึ้นมา ไม่ใช้แล้ว เพราะเป็นพิษต่อตับ

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไวต้า เคทู พลัส ดี3 เหมาะกับใคร?
✿    ผู้ที่ต้องการเสริมสร้างกระดูก เพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก
✿    บำรุงหลอดเลือดและหัวใจ ระบบหมุนเวียนเลือด
✿    ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจขณะออกกำลังกาย

ข้อแนะนำในการรับประทาน
รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล วันละครั้ง หลังอาหาร

วิธีเก็บรักษา เก็บไว้ในที่แห้ง และหลีกเลี่ยงแสงแดด

คำเตือน
✿    เด็ก และสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน
✿    ไม่มีผลในการป้องกัน หรือรักษา โรค

"ควรกินอาหารหลากหลายครบ ๕ หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำ"
อ.ย 10-1-18260-5-0156

น้ำหนักสุทธิ 13.5กรัม (450 มิลลิกรัม x 30แคปซูล)

2. 365 Lifecare Aquamin Calcium Plus D3 45แคปซูล.
365 ไลฟ์แคร์ อะความิน แคลเซียม พลัส ดี3
Aquamin Calcium plus D3 แตกต่างจากแคลเซียมทั่วไปอย่างไร

อะควอมินแคลเซียม เป็นแคลเซียมธรรมชาติจากสาหร่ายสีแดง สายพันธุ์ Lithothamnion sp จากเกาะไอซ์แลนด์และฝั่งใต้ของไอร์แลนด์ซึ่งเป็นแหล่งผลิตที่ดี เนื่องจากบริเวณที่เป็นทะเลที่สะอาด ปลอดมลภาวะ ต้องใช้เวลากว่า 5 ปี จึงจะได้สาหร่ายที่โตเต็มที่ อุดมไปด้วยแคลเซียม แมกนีเซียม และแร่ธาตุกว่า 74 ชนิด เป็นแคลเซียมที่มีผลงานวิจัยที่น่าเชื่อถือได้รับการตีพิมพ์กว่า 20 ฉบับ
อะควอมินแคลเซียม ถูกดูดซึมในลำไส้ได้ดีเนื่องจากมีโครงสร้างที่เป็นรูพรุนคล้ายรังผึ้งทำให้มีพื้นที่ผิวที่มากกว่าแคลเซียมคาร์บอเนตจากหินปูนถึง 10 เท่า ดังนั้นน้ำย่อยซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรดจึงทำให้เกิดการแตกตัวและดูดซึมได้ดีกว่าแคลเซียมทั่วไป
✿    นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยยืนยันว่าอะควอมินแคลเซียมไม่ก่อให้เกิดการอุดตันของหินปูนในหลอดเลือดเมื่อรับประทานไปมากกว่า 4 ปี มีคุณสมบัติช่วยลดการหลั่งพาราไทรอยด์ฮอร์โมน จึงช่วยลดการดึงแคลเซียมออกจากกระดูก ลดvkการอักเสบของข้อต่อจึงช่วยให้ผู้ป่วยโรคข้อกระดูกอักเสบลดปริมาณการรับประทานยาลดปวดอักเสบ (NSAIDs) ถึง 50% และไม่ก่อให้เกิดนิ่วในไตหรือกระเพาะปัสสาวะ
✿    นอกจากนี้ Aquamin calcium plus D3 ยังมีวิตามิน D3 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมแคลเซียม มีวิตามิน K1 ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์สร้างกระดูกและช่วยยับยั้งการเกิดหินปูนที่หลอดเลือด มีแมกนีเซียม ซิงค์ และแร่ธาตุอื่นที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก

ทำไมทานแคลเซียมแล้วยังเป็นโรคกระดูกพรุนอยู่
แม้ว่าแคลเซียมจะมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง ช่วยป้องกันภาวะโรคกระดูกพรุน เกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ การเต้นของหัวใจและการแข็งตัวของเลือด แต่คุณเคยทราบไหมว่าแคลเซียมที่อยู่ในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมีหลายรูปแบบที่แตกต่างกัน ซึ่งแต่ละรูปแบบมีการดูดซึมและให้ปริมาณแคลเซียมที่แตกต่างกันไป บางชนิดดูดซึมได้ไม่ดีและยังทำให้เกิดปัญหาเรื่องท้องผูก หรือแคลเซียมบางชนิดถูกดูดซึมได้ดีมากแต่กลับให้ปริมาณแคลเซียมที่ต่ำมาก ซึ่งปัญหาเหล่านี้ทำให้เราได้ปริมาณแคลเซียมไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายและยังเสี่ยงเป็นโรคกระดูกพรุนอยู่ดีแม้จะทานแคลเซียมอยู่ก็ตาม โดยทั่วไปในท้องตลาดแคลเซียมจะอยู่ในรูปของเกลือคาร์บอเนต เรียกว่าแคลเซียมคาร์บอเนต หรือหินปูน มีผลการวิจัยยืนยันว่าเซลล์ของลำไส้ดูดซึมแคลเซียมได้จำกัด คือ ดูดซึมได้ประมาณ 15-20% ของปริมาณที่รับประทานเข้าไปทั้งหมด จึงเกิดการตกค้างของแคลเซียมในร่างกาย

การทานแคลเซียมเสริมอาหารก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้อย่างไร??
การรับประทานแคลเซียมไม่ถูกวิธีกลับก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย เช่น การได้รับแคลเซียมในปริมาณที่สูงเกินไป และไม่ถูกดูดซึมอาจทำให้เกิดการสะสมจนก่อให้เกิดอันตราย เช่น แคลเซียมอาจจะสมเกิดเป็นหินปูนที่เต้านม หรือหากเกิดการสะสมในไตก็อาจก่อให้เกิดนิ่ว หรืออาจไปสะสมเป็นหินปูนอยู่บริเวณผนังของหลอดเลือดทำให้หลอดเลือดแข็ง หรืออาจไปสะสมที่ลิ้นหัวใจ หรือที่เยื่อหุ้มหัวใจ หากเกิดขึ้นกับหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจส่งผลให้หลอดเลือดเกิดภาวะตีบตันและนำไปสู่ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดได้

 ทานแคลเซียมอย่างไรให้เกิดประโยชน์และไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
พบว่าร่างกายจะมีมวลกระดูกสูงสุดเมื่ออายุ 25-30 ปี หลังจากอายุ 35 ปี มวลกระดูกจะค่อย ๆ ลดลง แต่ร่างกายของเราไม่สามารถสร้างแคลเซียมได้เอง ดังนั้นการเลือกรับประทานแคลเซียมเพื่อให้เกิดประโยชน์และไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย จึงต้องพิจารณาปัจจัยหลายประการ เช่น

รูปแบบของแคลเซียมที่รับประทาน
แคลเซียมที่อยู่ในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมีหลายรูปแบบที่แตกต่างกัน ซึ่งแต่ละรูปแบบมีการดูดซึมและให้ปริมาณแคลเซียมที่แตกต่างกันไป เพื่อให้ได้ปริมาณแคลเซียมที่เพียงพอในแต่ละวันจึงควรเลือกแคลเซียมที่ดูดซึมได้ดีและให้ปริมาณแคลเซียมได้มาก

วิตามินที่ช่วยเพิ่มการดูดซึม
เพื่อให้การทานแคลเซียมเกิดประโยชน์อย่างแท้จริง จึงควรมีส่วนผสมของวิตามินที่ช่วยการดูดซึมแคลเซียม กระตุ้นการทำงานของเซลล์สร้างกระดูก เช่น

วิตามินดี : วิตามินดีช่วยส่งเสริมการดูดซึมแคลเซียม แหล่งหลักของวิตามินดีที่สำคัญมาจากแสงแดด แต่จากข้อมูลพบว่าคนไทยโดยส่วนใหญ่ขาดวิตามินดี โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ จึงอาจมีความจำเป็นต้องรับประทานวิตามินดีเสริม

วิตามินเค : วิตามินเค ทำงานร่วมกันกับวิตามิน D ในการเพิ่มความหนาแน่นของกระดูก ลดความเสี่ยงการเกิดกระดูกหัก และยับยั้งการสะสมของแคลเซียมที่หลอดเลือด และเนื้อเยื่อต่างๆ ซึ่งเป็นสาเหตุของหินปูน (Vascular calcification, soft tissue calcification)

แร่ธาตุเสริมความแข็งแรงของกระดูก
นอกจากแคลเซียม ยังมีแร่ธาตุอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟัน เช่น แมกนีเซียม สังกะสี ทองแดง แมงกานีส เป็นต้น

Aquamin Calcium plus D3 เหมาะกับใคร
✿    ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดกระดูกบาง กระดูกพรุน
✿    สตรีวัยหมดประจำเดือน สตรีที่ขาดฮอร์โมน Estrogen ก่อนวัยหมดประจำเดือน เช่น ต้องผ่าตัดรังไข่ 2 ข้างออก
✿    ผู้สูงอายุ
✿    คนที่มีโครงร่างเล็ก ออกกำลังกายน้อย มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคกระดูกพรุนหรือกระดูกหักจากโรคกระดูกพรุน
✿    ผู้ที่มีความเสียงต่อการเกิดการสูญเสียแคลเซียมจากกระแสเลือด เช่น ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ ชา กาแฟหรือน้ำอัดลมเป็นประจำ
✿    ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการอักเสบของกระดูกและข้อ
✿    ผู้ที่ต้องการเสริมสร้างกระดูกและกล้ามเนื้อ
✿    ผู้ที่เสี่ยงต่อการอุดตันของแคลเซียมในระบบหลอดเลือดหัวใจ

ใน 1 แคปซูล ประกอบด้วย 1 แคปซูล 847.5 มก.
✿    Active Ingredient Amount Per Serving
✿    แคลเซียมจากสาหร่ายทะเล / Seaweed Calcium Powder 600.00 มก.
✿    ซิงค์ อะมีโน แอซิด คีเลต (20%) / Zinc Amino Acid Chelate (20%) 75,00 มก.
✿    แมกนีเซียม / Magnesium 52.50 มก.
✿    วิตามินดี3 (100000 ไอยู/กรัม) / Vitamin D3 (100000 IU/G) 1.00 มก.
✿    วิตามิน เค1 (5%) / Vitamin K1 (5%) 1.00 มก.

ข้อมูลสำหรับผู้แพ้อาหาร
มีผลิดภัณฑ์จากสาหร่าย
วัตถุเจือปนอาหาร (INS 428), สีสังเคราะห์ (INS 171)

วิธีรับประทาน
รับประทานวันละ 1 แคปซูล

วิธีเก็บรักษา
เก็บไว้ในที่แห้ง และหลีกเลี่ยงแสงแดด

อ.ย 10-1-18260-5-0141

น้ำหนักสุทธิ 38.1375 กรัม (847.5 มิลลิกรัม X 45 แคปซูล)

3. 365 Lifecare Collagen TypeII Plus Black Sesame 30แคปซูล. 
365 ไลฟ์แคร์ คอลลาเจน ไทป์ทู พลัส งาดำ
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร คอลลาเจนไทพ์ ทู พลัส งาดำ

Collagen Type II ซ่อมแหวนรองน๊อต
ฟื้นฟู ดูแลข้อต่อของคุณด้วย Collagen peptide type Ⅱ ที่สกัดจากกระดูกอ่อนไก่ ผ่านกระบวนการย่อยด้วยเอนไซม์ธรรมชาติ (Enzymatic Hydrolysis) จนได้โปรตีนที่มีขนาดโมเลกุลเล็กลง (Partial Hydrolyzed Protein) ทำให้ร่างกายดูดซึมและนำไปใช้ได้ดีขึ้น อีกทั้งยังอุดมไปด้วยกรดอะมิโน, Mucopolysaccharides และแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับข้อต่ออีกหลายชนิด
✿    สกัดมากจากกระดูกอ่อนไก่
✿    ใช้กระบวนการ “การย่อยด้วยเอนไซม์ธรรมชาติ (Enzymatic Hydrolysis)” ในการสกัดคอลลาเจนจากกระดูกอ่อนไก่ จึงได้ โปรตีนที่ผ่านการย่อยบางส่วน (partial hydrolyzed protein) ซึ่งเป็นโปรตีนที่มีขนาดโมเลกุลเล็กลง ทำให้ร่างกายดูดซึม และนำไปใช้ได้ดีกว่าคอลลาเจนทั่วๆ ไป
✿    ผ่านกรรมวิธีการกรอง จนได้ Collagen peptide type Ⅱ  มีสีขาวเหลือง มีกลิ่นและสีตามธรรมชาติ
✿    คอลลาเจนที่ได้ เป็นคอลลาเจนไทป์ทู 100% ทำให้ร่างกายดูดซึมได้ดี ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ดีกว่าคอลลาเจนทั่วๆ ไป

Black Sesame Extract (สารสกัดงาดำ) :
ต้านการอักเสบและกันอนุมูลอิสระ อุดมไปด้วยแคลเซียม
เซซามิน (Sesamin) เป็นสารสำคัญที่พบในงาดำ มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและกันอนุมูลอิสระ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างกระดูกอ่อนข้อเข่าให้แข็งแรงขึ้น และบรร เทาอาการเจ็บปวดได้ ในงาดำมีแร่ธาตุที่สำคัญ คือ ธาตุเหล็ก ไอโอดีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส โดยปริมาณแคลเซียมที่พบจะมีมากกว่าพืชผักทั่วไปกว่า 40 เท่า และฟอสฟอรัสมากกว่าพืชผักทั่วไปกว่า 20 เท่า ซึ่งเป็นธาตุที่ทำหน้าที่เสริมสร้างกระดูก

Black Pepper Extract (สารสกัดพริกไทยดำ) :
กันอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ
ในพริกไทยดำมีสารประกอบชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า พิเพอรีน (Piperine) จากการวิจัยพบว่าสารชนิดนี้มีคุณสมบัติในการกันอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ จึงช่วยรักษา โรคข้ออักเสบได้ จากงานวิจัยในหนูทดลองพบว่าสารพิเพอรีนช่วยลดอาการอักเสบในข้อต่อเท้าของหนูได้

Tumeric Extract :
ต้านการอักเสบ
ขมิ้นชันเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณมากมาย ถูกนำมาใช้เป็นยาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยเฉพาะฤทธิ์ต้านการอักเสบ ขมิ้นชันมีฤทธิ์ต้านการอักเสบได้หลากหลายขบวนการ จึงสามารถนำมาใช้ช่วยในการรักษา โรคเรื้อรังหลายโรค เช่น ข้ออักเสบ ได้ แต่ ขมิ้นชันทั่วไปมีข้อจำกัดในเรื่องการละลายน้ำ ทำให้การดูดซึมเข้ากระแสเลือดเพื่อไปลดอาการอักเสบในร่างกายเป็นไปได้ยาก หากเราสามารถพัฒนาขมิ้นชันให้มีคุณสมบัติในการละลายน้ำได้ดีขึ้น ก็จะช่วยเพิ่มสรรพคุณด้านการต้านอักเสบได้มากขึ้น

ปวดข้อ ปวดเข่า ทานแคลเซียมอย่างเดียวอาจไม่ตรงจุด
การปวดเข่า เกิดได้จากหลายสาเหตุ บางคนมักเข้าใจผิดว่าเกิดจากกระดูกพรุนหรือเสื่อม แต่จริงๆแล้วมันเป็นแค่ปัจจัยหนึ่งเท่านั้น ร่างกายเรามีทั้งกระดูกแกนกลาง กระดูกอ่อน กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น เส้นประสาท ข้อต่อ ที่ทำงานประสานกัน ดังนั้นเราควรพิจารณาว่าอาการปวดของเรามีสาเหตุมาจากส่วนใด

โครงสร้างของกระดูกจะประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลักๆ คือ แกนกระดูก(เป็นแกนกระดูกแข็งๆ) กระดูกอ่อนหุ้มข้อต่อ (เปรียบเสมือนแหวนรองน๊อต) และน้ำเลี้ยงไขข้อ(เปรียบเสมือนน้ำมันที่ช่วยหล่อลื่นบริเวณข้อต่อ) ดังนั้นอาการปวดบริเวณข้อต่อจึงมักเกิดจากบริเวณกระดูกอ่อนและน้ำเลี้ยงข้อต่อ เป็นหลักนั่นเอง

อย่ารอให้ “น้ำหล่อเลี้ยงข้อต่อ” และ กระดูกอ่อนของคุณหายไป
ข้อเข่าเสื่อม มักพบในผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป และพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย เนื่องจากอิทธิพลทางด้านฮอร์โมน แต่ปัจจุบัน ปัญหาข้อเข่าเสื่อมกลับพบได้มากขึ้นในผู้ที่มีอายุน้อยลง เนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น น้ำหนักตัวมากเกิน การใช้งานบริเวณข้อต่อมากเกินไป การรับประทานอาหารที่มีสารอาหารไม่ครบถ้วน ทำให้การผลิตสารกลุ่มมิวโคโพลีแซคคาไรด์ คอนดรอยตริน หรือคอลลาเจนไทพ์ ทู ซึ่งเป็นองค์ประกอบของข้อเข่าลดลง ซึ่งคนกลุ่มนี้มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมก่อนวัยได้

วิธีการดูแลป้องกันไม่ให้เกิดข้อเสื่อมก่อนวัย ได้แก่

ควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้มากเกินมาตรฐาน
✿    ออกกำลังกายบริหารบริเวณหัวเข่า
✿    ลดกิจกรรมที่เพิ่มแรงกระแทก แรงกดทับบริเวณข้อเข่านานๆ
✿    รับประทานคอลลาเจนเสริม

ถูกทุก(ปัญหา)ข้อ ด้วยคอลลาเจนไทพ์ ทู
คอลลาเจนชนิดที่ 2 (Collagen Type II) เป็นชนิดที่ พบได้ในเซลล์กระดูกอ่อนบริเวณข้อต่อและหมอนรองกระดูกสันหลัง ซึ่งเป็นคอลลาเจนที่ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของข้อกระดูก ด้วยการกระตุ้นให้เกิดการสังเคราะห์เซลล์ใหม่เพิ่มขึ้น ช่วยเพิ่มระดับกรดไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic Acid) และยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่ย่อยสลายน้ำหล่อเลี้ยงข้อ สามารถช่วยลดอาการปวดข้อและข้อยึด ทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น คอลลาเจนชนิดที่ 2 (Collagen Type II) จะแตกต่างจากคอลลาเจนที่พบในผิวหนัง ผนังหลอดเลือด เยื่อบุเซลล์ต่างๆ ซึ่งจะเป็นคอลลาเจนชนิดที่ 1, 3 และ 4 (Collagen Type 1, 3 และ 4)

ใน 1 แคปซูล ประกอบด้วย 1 แคปซูล 550 มก.
Active Ingredient Amount Per Serving
✿    สารสกัดจากขมิ้น / Turmeric Extract 100.00 มก.
✿    คอลลาเจนไทป์ทู / Type Il Collagen 60.00 มก.
✿    สารสกัดจากงาดำ / Black Sesame Extract 25.00 มก.
✿    สารสกัดจากพริกไทยดำ / Black Pepper Extract 20.00 มก.

Collagen Type II plus Black Sesame เหมาะกับใคร?
✿    ผู้ที่มีปัญหาปวดข้ออักเสบ เช่น นักกีฬา หรือ ผู้ที่ใช้ข้อกระดูกมาก
✿    ผู้ที่ต้องการป้องกันข้อกระดูกเสื่อมก่อนวัย

ข้อแนะนำการรับประทาน
รับประทานครั้งละ 1 แคปซูล วันละครั้ง หลังอาหาร

วิธีเก็บรักษา เก็บไว้ในที่แห้ง และหลีกเลี่ยงแสงแดด

คำเตือน
✿    เด็ก และสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน
✿    ไม่มีผลในการป้องกัน หรือรักษา โรค

"ควรกินอาหารหลากหลายครบ ๕ หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำ"

อ.ย 10-1-18260-5-0144

น้ำหนักสุทธิ 16.5 กรัม (550 มิลลิกรัม x 30แคปซูล. )